นิกร การุณวงศ์  

best viewed with 640*480 and MSIE
 
 
 
 





 

เกร็ดความรู้สามเกลอ

การรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับสามเกลอของแต่ละคน ก็ย่อมแตกต่างกันไป มากบ้างน้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการติดตาม และโอกาสในการเข้าถึงแหล่งที่มาของข้อมูลนั้นๆ ผมจึงอยากให้แฟน ๆ ของสามเกลอ มีการ Share ข้อมูลข่าวสารเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ ที่เกี่ยวกับสามเกลอและป. อินทรปาลิต โดยใช้ Home Page แห่งนี้เป็นสื่อกลาง ท่านใดที่มีข้อมูลที่น่าสนใจ กรุณา Email มายัง Webmaster

Published Date

Information

Posted By

25/09/98 เรื่องสามเกลอที่ยาวที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมาคือเรื่องซานุกข่าน ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารเพลินจิตต์รายสัปดาห์ ประมาณปี 2501-2502 ภายหลังนำมาพิมพ์รวมเล่มได้ 10 เล่มจบ เป็นตอนที่คณะพรรคสี่สหายไปเที่ยวอินเดีย โดยพักอยู่ที่วังของมหาราชาซานุกข่าน สหายของ ดร.ดิเรก ทั้งหมดได้ออกเดินทางปีนภูเขาหิมาลัยและได้เป็นคนไทยคณะแรก ที่พิชิตยอดเขาเอฟเวอเรสท์ ขากลับลงมาได้เผชิญหน้ากับจอมโจรองคุลีมาน และก่อนจะเดินทางกลับได้ร่วมทีมฟุตบอลของซานุกข่านแข่งชนะพนันทีมของ มหาราชาคู่ปรับได้โดยอาศัยยามหากำลังของดิเรกช่วยในครึ่งหลัง คุณวัชร
25/08/98 ในตอน "เจ้าปฐพี" มีการกล่าวถึงคุณประณีต แม่ของประภา ประไพ ซึ่งป่วยด้วยโรคนิวมอเนีย และถึงแก่กรรมเมื่อประภาอายุได้ 8 ขวบ และประไพอายุได้ 6 ขวบ Webmaster
15/08/98 พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน 2525 ให้ความหมายไว้ว่า สีโศก "คือสีเขียวอ่อนอย่างสีใบอโศกอ่อน เรียกว่า สีโศก" อันเป็นสีเดียวกับรถสะแตนดาร์ดเก๋งของอาเสี่ยกิมหงวน คุณอภิรัตน์ (00292)
03/08/98 ผมมีข้อสังเกตว่า สมัยก่อนนี้เขาแต่งชุดสากลสีขาวหรือสีอ่อนกันเท่านั้น (ในสามเกลอก็เขียนไว้ ยืนยันจากรูปถ่ายเก่า ๆ และคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ของผมประกอบ) ไม่มีการแต่งสูท สีอื่นเยอะแยะเหมือนสมัยนี้ ผู้ใหญ่ผมบอกว่า คนไทยเราเพิ่งใส่สูทสากลสีเข้มกันทั่วไปกันเมื่อกึ่งพุทธกาลนี่เอง คุณอภิรัตน์ (00292)
22/07/98
จากการรวบรวมข้อมูลผมพบว่า กิมหงวนสูง 6' 1" - 6' 3" คือ 182.5 - 187.5 cm ส่วนนิกร มีตั้งแต่ 5' 2" - 5' 5" คือประมาณ 155 - 162.5 cm ดังนั้นนิกรจะเตี้ยกว่ากิมหงวนประมาณ 20 - 32.5 cm ซึ่งจะเห็นว่าเตี้ยกว่าเยอะพอสมควร
Webmaster
22/07/98
แว่นของเสี่ยหงวนไม่น่าจะเป็นพลาสติก อาจจะเป็น "กระ" จริง ๆ ก็ได้ คือทำมาจากกระดองเต่าหรือกระดองกระ ถึงแม้ว่าอาจจะแพงกว่าพลาสติก แต่คนอย่างเสี่ยหงวนไม่ควรจะกลัวของแพง มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่งว่า รูปวาดฝีมืออาภรณ์ อินทรปาลิต แสดงให้เห็นว่า อาเสี่ยใส่แว่นกระจกดำ เป็นคล้าย ๆ แว่นกันแดด แต่ที่ไม่เคยแตกเวลาชกกับใครสักทีนั้น ผมว่าคงเป็นเพราะเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเสี่ยหงวนเอง ถ้ามีโมโหถึงขั้นจะชกกับใครแล้ว จะกระชากแว่นขอบกระออกโยนส่งให้เพื่อน (นิกร หรือพล) เก็บไว้ให้ทุกทีก่อนเข้าตะลุมบอน และผมเดาว่า อาเสี่ยกิมหงวนไม่ได้สายตาสั้นหรือยาวจนต้องใส่แว่นตลอดเวลา จะถอดก็ได้ แต่มันไม่เท่น่ะ ดังนั้นจึงถอดแว่นชกมวยได้ (อย่าลืมว่ากิมหงวนเป็นนักบินกองทัพอากาศ มีฉายาว่าเปรตเวหา สายตาต้องเป็นปกติดี) ซึ่งต่างจาก ดร.ดิเรก ที่สายตาสั้นจริง ๆ ไม่ได้ใส่เอาเท่ ต้องใส่แว่นติดตาเสมอ ไม่ใส่ไม่เห็น เมื่อเกิดเรื่องชกต่อยกัน แว่นคุณหมอก็ต้องแตกทุกทีไป
คุณอภิรัตน์ (00292)
30/06/98 คิดว่าแว่นขอบกระที่กิมหงวนใส่คงจะเป็นแว่นตาพลาสติก มีแต่กรอบไม่มีเลนส์ ซึ่งใส่เพื่อเพิ่มหรือทำลายบุคคลิกคนใส่ เพราะเท่าที่เคยอ่านมาเวลาอาเสี่ยกิมหงวนถูกชกเมื่อไหร่ ก็จะไม่เคยแว่นแตกเลย ซึ่งต่างจากด็อกเตอร์ดิเรก เวลาชกกันทีไรแว่นแตกทุกครั้งครับ คุณสรสิทธิ์ (00263)
22/06/98 ทายาทของสามเกลอมีชื่อว่า พนัส นพ สมนึก อีกหนึ่งปีถัดมา (เวลาในเรื่อง) ประภาภรรยาของ ดร. ดิเรก จึงให้กำเนิดบุตรชายชื่อ ดำรง (ที่มา: หนังสือ ป. อินทรปาลิต ชีวิตของคนขายฝัน โดยเริงไชย พุทธาโร) Webmaster

21/06/98

ในสามเกลอตอน "อายผู้หญิง" ในหน้าที่ 2 เจ้าคุณประสิทธิ์ฯ ได้รับบัตรเชิญไปงานแซยิดของพระยาศรีวิศาลสุนทร ในวันจันทร์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ แต่จริงๆ แล้ววันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2481 เป็นวันอาทิตย์

Webmaster

06/06/98 ตอนผมเด็กๆ เคยฟังวิทยุมีการสัมภาษณ์คุณ ป.อินทรปาลิต ซึ่งท่านเล่าว่าท่านได้ตัวละครเจ้าคุณปัจจนึกมาจากญาติผู้ใหญ่ของท่านคนหนึ่ง ซึ่งศีรษะล้าน และจะโกรธมากเมื่อถูกใครพาดพิงถึง คุณปราโมทย์
29/05/98 ลุงเชยเป็นตัวละครที่เกิดมาจาก ประสบการณ์ของ ป. อินทรปาลิต ช่วงที่เป็นเด็กติดเรือล่องระหว่าง นครสวรรค์-กรุงเทพฯ (มีโอกาสที่ลุงเชยจะมีตัวตนจริงๆ) คุณตี๋ (00223)
21/05/98 บ้านพัชราภรณ์ตอนแรกๆ ตั้งอยู่ที่ถนนพญาไท แต่ในภายหลังกิมหงวนได้สร้างบ้านใหม่ให้คุณหญิงวาด ทำให้บ้านพัชราภรณ์ย้ายไปอยู่ที่ถนนสุขุมวิท บางกะปิ ซึ่งคณะพรรคได้ทำการย้ายบ้านกันในตอน "วิมานใหม่" และยังได้มีการแข่งขันจัดห้องที่บ้านใหม่อีกด้วย คุณ Kessirin (00159)
30/04/98 ในตอนบุกฝั่งโขงที่กิมหงวนถูกจับ กิมหงวนพูดภาษาฝรั่งเศสคล่องมาก แต่ตอนฝ่าแนวกระสุนซึ่งเป็นตอนที่สามเกลอจะหนีจากจุดที่โดนล้อม กิมหงวนกลับบอกว่าพูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้เลย (จับผิดสามเกลอ) คุณ Kessirin (00159)

26/04/98

ผมเจอหนังสือสือเลียนแบบสามเกลออีกหนึ่งเล่ม ชื่อเรื่องว่าสามเกลอเจอสามสาว คนเขียนใช้นามปากกว่า “นายสำราญ” ตัวละคร ชื่อ ป้อม ชาญ และ เคาะ ชื่อเต็มๆ คือ ป้อม ปราการ ชาญ เสียงเสนาะ และ เคาะ นาฎศิลป์ แถมมีตัวละครที่มีคาแร็กเตอร์ เหมือนเจ้าคุณปัจจนึกด้วย แต่ไม่เจอคนเลียนแบบดิเรก ราคาหน้าปก 3 บาท พิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2505

คุณบุ๊ค (00100)

21/04/98 เพลงดวงจันทร์ที่นำมาทำใหม่โดย สุเมธแอนด์เดอะปั๋ง ซึ่งมีเนื้อร้องปรากฎในสามเกลอว่า "ด๊วงจั่น งามพักตร์พิศเพียงพร้าจั่น อย่ามาแกล้งยอฉัน ชั้นเป็นดวงจันทร์ที่กำลังลั่นป้อ" โดยกิมหงวนได้ใช้เพลงนี้ร้องออดอ้อนนวลละออ บนเรือน้อยกลางสระน้ำบ้านพัชราภรณ์ อยู่ในตอนหมัดเสืออากาศ หรืออีกนัยหนึ่งเป็นตอนที่ สามเกลอได้สร้างตึกสี่สหายขึ้น คุณหมอดิเรก (00122)
23/03/98 ในตอน "กลัวเมีย" กิมหงวนคิดจะเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อไทย โดยพลแนะนำให้เปลี่ยนเป็นนพคุณ ส่วนนิกรตั้งชื่อให้ว่าสุนัข (นิกรให้ความหมายว่า ผู้มีเล็บงาม) ในที่สุดกิมหงวนก็ตกลงใจจะเปลี่ยนชื่อเป็นนพคุณ แต่ชื่อนี้ก็ไม่ได้ถูกใช้อีกเลย Webmaster
03/03/98 ผมมีเรื่องผู้แต่งเลียนแบบ3เกลออีก1เรื่องคือ กร นิพนธ์ กิมเล้ง เขียนโดย ป.อินทรฤทธิ์ ผมเคยอ่านมาซักปี ประมาณ 2517 คุณ โกวิท (00136)
03/03/98 ในตอนที่สามเกลอไปรบกับฝรั่งเศส เช่น ตอนไปรบเวียงจันทน์ กับ ฝ่าแนวกระสุน จะเห็นว่ามีการด่ากันด้วยคำว่า เลอเชียง บ่อยๆ คำนี้เป็นภาษาฝรั่งเศส คือ le chien คำว่า le ก็คือ the ส่วน chien ก็คือ dog รวมแล้วก็ the dog ก็คือ ไอ้หมา หรือชาติหมาอะไรประมาณนี้แหละครับ คุณ Kaii (00027)

20/02/98

ในตอนเกิดสำเพ็งนั้น กิมหงวนได้เขียนประวัติของตัวเองโดยระบุว่าเขาเคยเป็น นักฟุตบอลทีมของโรงเรียนอัสสัมชัญ และได้สร้างชื่อเสียงให้กับทีมฟุตบอลของโรงเรียน อย่างมากมาย แต่ในตอนจำอวดบรรดาศักดิ์ ซึ่งสามเกลอหนีเมียไปเที่ยวงาน ฉลองรัฐธรรมนูญ และได้ไปร่วมแข่งขันชู๊ตฟุตบอลชิงรางวัล คุณป. ได้เขียนไว้ว่า กิมหงวนนั้นไม่เคยเตะฟุตบอลมาก่อนเลยในชีวิต

Webmaster

19/02/98 หนังสือที่แต่งเลียนแบบ สามเกลอ - ที่ถูกต้องคือ พงษ์ หนาน กิมเบ๊ ซิงค์ ผู้แต่งคือ พ. ณ บางพลี คุณอานนท์
19/02/98 คำว่า "เชย" นั้นมาจากชื่อลุงเชย แต่เดิมจะใช้ว่า "เปิ่นเทิ่นเป็นมันเทศสัปหลัง" ต่อมาเพราะลุงเชยทำอะไรเปิ่นไว้มาก จึงพูดว่าเหมือนลุงเชย และกลายเป็นเชยในที่สุด คุณ Thit Siriboon (00129)
14/02/98 ได้มีนิตยสารสำหรับเด็ก ชื่อ "เด็กก้าวหน้า" ได้ให้คุณ ป. อินทรปาลิต เขียนเรื่อง สี่สหายลงเป็นตอนๆ เป็นเรื่องที่มีมนุษย์ต่างดาวมาลงที่เกาะร้าง โดยจะมี 2 หัวและสร้างสัตว์ยักษ์ ตอนแรกลูกสี่สหายไปปราบแต่ไม่สำเร็จ ต้องให้สี่สหายไปปราบด้วย เขียนต่อเนื่องกันหลายเล่มทีเดียว คุณ Thit Siriboon (00129)

07/02/98

วันนี้ผมเดินผ่านเวิ้งนครเขษม เจอร้านหนังสือของสำนักงานบรรณาคาร ปรากฏว่ายังมี สามเกลอชุดวัยรุ่นปกแข็ง (1 เล่มมี 3 เรื่อง) ขายอยู่ 7 เล่ม (ไม่ใช่ทั้งร้านมี 7 เล่มนะครับ) มีรายชื่อดังต่อไปนี้

ชุดที่ 1 เป็ดขันลิงไข่ นักโต้วาที นักวิทยาศาสตร์
ชุดที่ 2 จอมอภินิหาร แร้งโลกีย์ เสือสเปญ
ชุดที่ 3 เด็กเปรต จอมเบ่ง ไปจับผี
ชุดที่ 4 เดชผีตายโหง วันปอดเหล็ก ผู้พิชิตผี
ชุดที่ 5 โจรผู้ดี 1-2 เศรษฐีแห้ว
ชุดที่ 6 สองบวกสอง นักเลงใหญ่ หักเขี้ยวเสือ หมัดเพชรฆาต
ชุดที่ 7 นางกระเทย หุ่นผี ภาพยนตร์มหัศจรรย์ ดาวหางทลายโลก

คุณต้น (00026)

07/02/98 ผมเคยซื้อตอนสามเกลอหัวโล้น ซึ่งพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บันดาลสาส์นที่ ถนนนครสวรรค์ เส้นเดียวกับนางเลิ้งครับ แถวนั้นมีร้านหนังสือเยอะมาก (วันอาทิตย์จะปิด)ไม่แน่ใจว่าชื่อร้านอะไร แต่หาไม่ยาก จากสี่แยกนางเลิ้งเดินตามถนน ขึ้นไปทางผ่านฟ้า(แต่ไม่ถึง) เดินไม่ไกลอยู่ทางซ้ายมือจะเห็นร้านหนังสือ(ผ่านพวกร้านขายการ์ตูนก่อน) ลองดูแล้วกันถ้าหาไม่เจอค่อยถามอีกทีก็ได้ครับ คุณ Janethas (00018)
29/01/98 ผมได้ความรู้อย่างหนึ่งจากสามเกลอตอนแมงมุมยักษ์ ผมจะลองตัดตอนคำพูดของคุณหญิงวาดในเรื่องมาดังนี้ "ย่าเรียกไม่ถูกเว้ย ภาษาฝรั่งมังค่ากระดิกหูกับเขาเสียเมื่อไหร่ ภาษาไทยย่ายังไม่แตกฉานเปลี่ยนกันไปเปลี่ยนกันมา ยุ่งออกจะตายไป ประเดี๋ยวตัดหาง ญ. หญิงออกตอนเขาห้ามกินหมากห้ามนุ่งผ้าโจงกระเบน ต่อมานุ่งผ้าโจงกระเบนได้กินหมากได้ ญ.หญิงก็มีหางตามเดิม " คุณ สุรพงษ์ ลาภผาติกุล (00064)
29/01/98 สามเกลอได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน "รายชื่อหนังสือ 100 เล่มที่คนไทยน่าจะอ่าน" ในประเภทนิยาย โดยโครงการวิจัยหนังสือดี 100 เล่ม (ในช่วงปี 2410-2519) รายละเอียดอ่านได้จาก สารคดี ฉบับเดือนมกราคม 2541 ครับ คุณ Kaii (00027)
17/01/98 จากตอนแรกของสามเกลอคือตอน "อายผู้หญิง" ซึ่งตีพิมพ์กลางปี 2481 พลมีอายุ 25 ปี ส่วนนิกรมีอายุ 22 ปี ดังนั้นพลจะเกิดประมาณปี 2456 นิกรก็ประมาณปี 2459 ถ้าทั้งสองมีตัวตนจริงๆ และมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน(2541) พลจะมีอายุประมาณ 85 ปี ส่วนนิกรจะมีอายุประมาณ 82 ปีครับ Webmaster

28/12/97

ยศสูงสุดทางทหารที่สี่สหายได้รับคือ พลตรีสำหรับพล พันเอกพิเศษสำหรับนิกรและกิมหงวน พลโทสำหรับดร. ดิเรก

Webmaster

05/12/97 วันเกิดของคุณป.อินทรปาลิต คือ 12 พฤษภาคม 2453 เป็นปีที่ดาวหางฮัลเล่ย์ มาเยือนโลกอีกครั้งครับ คุณประดิษฐ์
03/12/97 3 เกลอชอบมาเที่ยวที่หยาดฟ้าภัตตาคารและก็เดินท่องพาหุรัด ย่านของนายกิมหงวน แต่มีอยู่ตอนหนึ่งมีงานแฟร์แถบเยาวราช คนเยอะมาก (อาจจะเป็นตอน เกิดสำเพ็ง หรือ ตอนที่เชื้อพระวงศ์เสด็จสำเพ็ง ไม่แน่ใจ) 3 เกลอเขาเบื่อคนเลยหลบมากินอาหารและเหล้าที่ร้านอาหารเล็กๆ ตรงข้ามโรงหนังเฉลิมบุรี พออ่านถึงตรงนี้ ผมเกิดสะดุดใจเลยถามพี่ชายว่า แต่ก่อนบ้านที่นี่เป็นภัตตาคารหรือเปล่า เขาบอกว่าใช่ แต่เป็นมาตั้งนานมากแล้ว เพราะตอนช่วงหลังที่ผมเกิดนี่ บ้านนี้เป็นโกดังร้านขายยาก่อน แล้วค่อยขายมาให้บ้านของผมขยายเป็น 2 ห้องเมื่อ 20 กว่าปีก่อน คุณ Captain Hawk
30/11/97 ผมคิดว่าชุดวัยหนุ่มขาดไปเล่มหนึ่งตอน กิมหงวนกับเจ้าคุณถูกจับที่ฝั่งลาวน่ะครับตอนไปช่วยน้องเจ้าคุณ พออีกเล่มกลายเป็นว่าทั้งหมดเป็นทหารไปแล้วน่ะครับ (ตอนบุกฝั่งโขง) คุณ CHARLIE LEEPHANSANG
29/11/97 ส่วนที่คุณ JC กล่าวถึงเรื่อง พร หาญ กิมเบ๊ ซิงห์ นั้น ผมก็เคยอ่านอยู่ 1 ตอน เป็นการเลียนแนวเขียนมาค่อนข้างมาก แต่จำไม่ได้เหมือนกันว่า ใครคือผู้เขียน คุณ Captain Hawk
14/11/97 สามเกลอนี่เคยมีเรื่องลอกเลียนแบบด้วยครับ ไม่ทราบว่าคุณจะเคยรู้หรือเปล่า เรื่องปลอมนั้นรู้สึกจะชื่อ "พร หาญ กิมเบ๊ ซิงห์" หรือไงนี่แหละ เรื่องนี้ผมไม่เคยอ่านเอง แต่เพื่อน(ซึ่งบ้าคลั่งสามเกลอเหมือนกัน)เป็นคนบอกผมอีกทีหนึ่ง ผมไม่แน่ใจว่าเขามีต้นฉบับอยู่หรือเปล่า ถ้ายังไงเดี๋ยวจะไปถามมาให้อีกทีครับ คุณ JC
14/11/97 ขอเสริมหน่อยนะครับ ป. อินทรปาลิตได้ขายลิขสิทธิ์บทประพันธ์ทุกเรื่อง ที่ได้มีการพิมพ์ จำหน่ายและประพันธ์ขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2473 - 2491 โดยสำนักพิมพ์ต่างๆ ทุกสำนัก และที่ลงตีพิมพ์ในนิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ให้กับสำนักพิมพ์ผดุงศึกษา เป็นเงิน 12,000 บาท น่าเศร้าใจจริงๆ คุณสมพร หน่วยสกุล
12/11/97 แม้ว่าสามเกลอจะได้รับการตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ป. อินทรปาลิตและทายาทไม่ได้ รับผลประโยชน์ใดๆจากบทประพันธ์ดั้งเดิมของท่านเลย เพราะได้ขายขาดลิขสิทธิ์ให้แก่สำนักพิมพ์ผดุงศึกษา ตั้งแต่ก่อนปีพ.ศ. 2500 ด้วยเงินเพียงไม่กี่หมื่นบาท Webmaster

All texts provided by this web site are intended for private uses only. Our main objectives are to promote "Sam-Gler" to all cyberspace surfers and to memorize one of the greatest writers in Thai fiction history, Por. Intarapalit. In short, all contents are for education purpose only. Any duplication or reissue of the contents for any other purpose must be avoided. Any occurrence arising out of and/or in connection with the said violation shall not be a scope of Webmaster's responsibilities.
For problems or questions regarding this web contact
Webmaster.
Last updated: 23-07-1998.